กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ส่งเสริมโรงพยาบาลรัฐพัฒนาคุณภาพยาจากสมุนไพรให้ได้มาตรฐานสากล พร้อมจัดทำตำรายามาตรฐานสมุนไพรไทย เพื่อใช้อ้างอิงการขึ้นทะเบียนและควบคุมคุณภาพตำรับยาสมุนไพร ทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในคุณภาพยาสมุนไพรไทย
นายแพทย์อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ (บ่ายวันนี้ 9 มิ.ย. 2559) ว่า ปัจจุบันแนวโน้มการใช้ยาสมุนไพรในประเทศไทยมีมากขึ้น คิดเป็นมูลค่าการใช้ราวปีละ 10,000 ล้านบาท อีกทั้งรัฐบาลมีนโยบายการใช้สมุนไพรแห่งชาติ เพื่อทดแทนการใช้ยาแผนปัจจุบันให้มากขึ้น เป็นการสนับสนุนการใช้ยาสมุนไพรในระบบบริการสาธารณสุขเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ยาสมุนไพรไทยมีโอกาสและความท้าทายที่สำคัญในการให้บริการสาธารณสุขและเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อการส่งออก ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานหลักในการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการได้ตระหนักถึงความสำคัญ จึงได้ส่งเสริมให้โรงพยาบาลของรัฐในการพัฒนาสมุนไพรไทยให้มีคุณภาพและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โรงพยาบาลพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นอีกหนึ่งโรงพยาบาล ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 2 พิษณุโลก ได้เข้าไปให้การสนับสนุนโดยการตรวจประเมินและควบคุมคุณภาพวัตถุดิบสมุนไพร การตรวจสอบปริมาณสารสำคัญ การตรวจสอบการปนเปื้อนโลหะหนัก เชื้อจุลินทรีย์ ยาฆ่าแมลง ทั้งในรูปแบบผงยาสมุนไพรที่เป็นวัตถุดิบตั้งต้นของการผลิตยาและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรสำเร็จรูป มีการตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์สุขภาพสมุนไพรสำเร็จรูป เพื่อดูความก้าวหน้าในการปรับปรุงสถานที่ผลิตวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สุขภาพจากสมุนไพร ให้ได้ตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตยาจากสมุนไพร (GMP) พร้อมได้ให้คำแนะนำและแนวทางการปรับปรุงแก้ไข ส่งผลให้ รพ.พิชัยรับการตรวจประเมินผ่านมาตรฐานการผลิตยาแผนโบราณจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และได้ดำเนินการผลิตยาสมุนไพรให้กับโรงพยาบาลทั้งในและต่างจังหวัด เช่น โครงการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง โครงการผลิตยาเพื่อออกหน่วย พอ.สว. เป็นต้น นอกจากนี้ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 2 พิษณุโลก ได้ร่วมกับ รพ.พิชัย ในการดำเนินการส่งเสริมการใช้สมุนไพรในท้องถิ่นให้คุ้มค่า โดยการส่งเสริมให้ รพ.ผลิตผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรและเครื่องสำอางผสมสมุนไพรขึ้นใช้ในโรงพยาบาล และหอพักผู้ป่วยให้ได้คุณภาพ เช่น สบู่ แชมพู ยาสีฟัน เจลล้างมือ เป็นต้น เพื่อลดต้นทุนการสั่งซื้อและเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนอีกด้วย
"ที่ผ่านมากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้มีการจัดทำตำรามาตรฐานสมุนไพรไทย (Thai Herbal Pharmacopoeia) ขึ้นมา เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบสมุนไพร และเป็นมาตรฐานอ้างอิงเพื่อการส่งออกนำเข้าสมุนไพร รวมทั้งใช้อ้างอิงการขึ้นทะเบียนตำรับยาแผนโบราณและยาพัฒนาจากสมุนไพร โดยตำราดังกล่าวได้บรรจุอยู่ในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องระบุตำรายา พ.ศ.2556 เพื่อบังคับใช้เป็นตำรายาอ้างอิงของประเทศ ซึ่งปัจจุบันกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ยังคงดำเนินการจัดทำตำรามาตรฐานยาสมุนไพรอย่างต่อเนื่อง ให้ครอบคลุมชนิดของยาสมุนไพรเพิ่มขึ้นตามบัญชียาหลักแห่งชาติ และในปัจจุบันแนวโน้มการใช้สมุนไพรในเครื่องสำอางมีมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงพัฒนาวิธีวิเคราะห์สมุนไพรในเครื่องสำอางและต้องการให้ผู้ประกอบการ SME ที่ผลิตเครื่องสำอางมีความเข้าใจในเรื่องของคุณภาพและการผลิตเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสมุนไพร เช่น มะหาด มะขาม มะรุม มะพร้าว และทับทิม” นายแพทย์อภิชัยกล่าว